จากหลานชายกลายเป็นผัวป้าตอนที่ 4 (น้องสาวอยากโดน)

จากหลานชายกลายเป็นผัวป้าตอนที่ 4 (น้องสาวอยากโดน)

หลังจากที่แม่สนทนากับบุคคลทางปลายสาย ซึ่งจากการฟังลักษณะการคุยของแม่บุคคลที่สนทนากับแม่น่าจะเป็นน้องสาวของผม ทันทีที่วางสายแม่ก็เดินเข้ามาหาผมน้ำตาคลอเบ้าแล้วประโยคแรกที่แม่พูดออกมาก็ทำให้ผมตัวชาพูดไม่ออก

 "เล็กน้องโทรมาบอกว่าเมื่อเช้าพ่อลื่นล้มในห้องน้ำหัวฟาดพื้น ตอนนี้นอนอยู่โรงพยาบาลหมอบอกว่าโอกาสรอดของพ่อมีไม่ถึง10 เปอร์เซ็น"

 พูดจบแม่ก็เอาแต่ร้องให้คร่ำครวญว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้พ่อต้องเป็นแบบนี้ เพราะไม่ยอมอยู่ดูแลพ่อ ผมกับป้าก็ได้แต่ปลอบว่าไม่มีใครผิดทั้งนั้นแหละ เพราะว่าตอนพ่อเข้าห้องน้ำก็ไม่ยอมให้ใครเข้าไปด้วยอยู่แล้ว พ่อผมเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาการของโรคก็คือกล้ามเนื้อลีบและไม่มีแรงเวลาพูดจะพูดไม่ค่อยชัด การเดินก็พอเดินได้แต่ต้องใช้คนหรือเครื่องช่วยพยุง อาการคล้ายๆพวกโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต แต่ไม่หนักเท่า ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเวลาพ่อผมเข้าห้องน้ำจะไม่ยอมให้ใครเข้าไปด้วยไม่ว่าแม่หรือน้องสาวของผมก็ตาม แม่ผมจึงต้องทำราวไว้สำหรับให้พ่อเกาะพยุงตัวในห้องน้ำ แต่ก็ยังอันตรายอยู่ดีโอกาสที่จะพลาดก็มีและก็เกิดขึ้นจนได้ พวกเราสามคนตกลงกันว่าคงต้องหยุดขายของเพื่อที่จะเดินทางเป็นดูอาการของพ่อที่โรงบาลประจำจังหวัดที่บ้านผม

พวกเราช่วยกันขนของที่จะเตรียมไว้ขายใส่เข้าห้องเย็นย่อมๆที่ป้ามีไว้สำหรับใส่พวกของที่ยังขายไม่หมดเสร็จแล้วก็ออกเดินทางทันที ป้าผมเป็นคนขับรถเพราะผมยังไม่มีใบขับขี่ ซึ่งผมก็จะผลัดขับให้ป้าบ้างในช่วงที่เส้นทางออกนอกเมืองแล้ว เราเดินทางมุ่งตรงไปที่โรงบาลเลยโดยไม่ได้แวะบ้านไปถึงที่โน่นก็เกือบทุ่มหนึ่งแล้วพวกเรารีบจนลืมกินข้าวกันเลย พอถึงโรงบาลได้ก็ตรงไปที่หน้าห้อง ICU ซึ่งตอนนี้มีน้องสาวและญาติๆของผมนั่งรออยู่หลายคน แม่รีบตรงเข้าไปถามอาการของพ่อกับญาติๆที่คอยสังเกตุการณ์กันตั้งแต่เช้า ซึ่งก็ได้รับคำตอบที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ส่วนน้องสาวพอเห็นผมก็ตรงเข้าสวมกอดผมทันที ตอนที่อยู่ที่บ้านผมจะสนิทกับน้องมากเพราะเรามีกันแค่สองคนพี่น้อง

น้องเข้ามากอดผมแล้วสอึกสอื้นตัดพ้อตัวเองไปต่างๆนา ผมก็ได้แต่ปลอบใจน้องสาวให้สบายใจขึ้น น้องผมชื่อนิดครับ เป็นน้องสาวคนเดียวของผมตอนนี้แกอายุ13ปีและเรียนอยู่ชั้นม.1แล้ว ในขณะนี้ผมเริ่มสังเกตุน้องสาววัย13ปีของผม ก็เพิ่งเห็นว่าหลังจากที่ผมไปอยู่กับป้าได้แค่สามปีน้องสาวผมมันโตเร็วขนาดนี้เลยเหรอ ตอนนี้จมูกผมอยู่ไม่ห่างจากซอกคอน้องมากนัก ผมสูดกลิ่นแป้งและกลิ่นของสาวแรกรุ่นวัย 13 ปีเข้าไปเต็มปอด น้องนิดก็กอดผมแน่นอย่างลืมไปเลยว่าตอนนี้หน้าอกขนาด32ของตัวเอง ได้เบียดอัดกับหน้าอกของพี่ชายตัวเองอยู่ เธอคงจะไม่รู้ตัวเลยว่า

 พี่ชายของเธอหลังจากที่เขาได้ไปอยู่กับป้าตอนนี้เขาไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว บัดนี้พี่ชายของเธอได้เป็นนักเย็ดระดับชั้นเทพควยทองคำ ที่ตอนนี้ป้าและแม่ของเธอก็หลงไหลจนถอนตัวไม่ขึ้น ความสาวแรกรุ่นของเธอกำลังกระตุ้นให้พี่ชายของเธอเกิดอารมณ์กำหนัดขึ้นในสถานการณ์อันหดหู่อย่างนี้ ก็ความเงี่ยนกับความเศร้ามันเป็นคนละเรื่องกันนี่ครับ ผมควยตุงโดยที่น้องนิดไม่ทันได้สังเกตุเห็น หลังจากที่แม่ของผมคุยอยู่กับญาติๆได้ไม่ถึง10นาที คุณหมอที่ทำการรักษาพ่อก็เปิดประตูห้องICUออกมา

"ญาติของคนไข้มากันครบหรือยังครับ"คุณหมอถามพวกเราที่นั่งคอยอยู่พร้อมกับแสดงสีหน้าที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก "เนื่องจากคนไข้เลือดออกในสมองมากและเดินทางมาหาหมอช้าไป ทำให้การผ่าตัดช่วยชีวิตไม่ได้ผล"

"ตอนนี้คนไข้มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจและยากระตุ้นหัวใจที่กำลังจะหมดฤทธิ์ใน2-3ชั่วโมงข้างหน้านี้"

"แต่ถ้าจะให้ยาต่อคนไข้ก็จะอยู่ได้อีกหลายชั่วโมง แต่หมอคิดว่าจะเป็นการทรมานคนไข้เปล่าๆ"

"อันนี้หมอก็อยากจะขอความเห็นจากญาติๆว่าจะให้ยากระตุ้นต่ออีกหรือไม่ แต่ก็ทำได้แค่ยื้อชีวิตต่อไปเท่านั้นคนไข้คงไม่มีอาการดีขึ้น" สิ้นเสียงของคุณหมอ แม่ผมซึ่งยังไม่กินอะไรมาเลยตั้งแต่กลางวันก็ปล่อยโฮออกมาแล้วก็เป็นลมหมดสติไป ป้าใหญ่และน้องนิดจึงต้องช่วยกันปฐมพยาพาลแม่ผมกันอย่างอลหม่าน

ส่วนผมตอนนี้ก็ชาไปทั้งตัวทำอะไรไม่ถูก หลังจากที่แม่ฟื้นมาแล้ว เรากับญาติๆของพ่อก็ได้ตกลงกันว่าน่าจะปล่อยให้พ่อจากไปอย่างสงบ เพราะถึงจะยื้อชีวิตพ่อต่อไป ก็คงไม่ทำให้พ่อหายเป็นปกติได้แต่กลับจะทำให้พ่อต้องทรมารต่อไปอีก

ผมกับแม่และน้องนิดเฝ้ามองดูพ่อ ซึ่งตอนนี้เส้นการฟที่หน้าจอกำลังจะกลายเป็นเส้นตรงเข้าไปทุกทีแล้ว ผมก้มลงกราบที่อกของพ่อเป็นการสั่งลาครั้งสุดท้ายพร้อมกับกระซิบที่ข้างๆหูพ่อว่า "พ่อครับพ่อไม่ต้องเป็นห่วงผมจะดูแลแม่และน้องนิดอย่างดี และจะทำหน้าที่แทนพ่ออย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลยครับ" พอผมพูดจบเสียงปี๊ปจากเครื่องวัดคลื่นหัวใจก็ดังขึ้น เส้นการฟที่หน้าจอก็กลายเป็นเส้นตรง เป็นการบอกว่าสัญญาณชีพของพ่อได้หมดลง 

พ่อผมก็หลับอย่างสบายและคงจะไม่มีห่วงอะไรอีกแล้ว หลังจากที่พ่อสิ้นใจพวกเราก็กลับไปค้างที่บ้านกันก่อน เพราะกลางคืนรับศพกลับไม่ได้ต้องรอจนถึงช่วงเช้า ปกติแถวต่างจังหวัดนี่จะนิยมจัดงานศพกันที่บ้านเพราะว่ามีญาติๆคอยช่วยงาน และพื้นที่ก็กว้างขวางทำให้สะดวกกว่าจะจัดงานที่วัด ในคืนแรกหลังจากที่พระสวดเสร็จผมก็ได้นอนห้องเดิมของผมซึ่งตั้งแต่ผมไม่อยู่น้องสาวก็มานอนแทน

 คืนนั้นผมจึงได้นอนกับน้องสาว ส่วนแม่ก็นอนห้องของแม่เองซึ่งตอนพ่อยังอยู่แม่ก็นอนกับพ่อ ป้าผมกลัวว่าถ้าปล่อยให้แม่นอนคนเดียวแม่จะคิดมากเลยไปนอนเป็นเพื่อน ตอนนี้ป้ากับแม่คงอยู่ในช่วงไม่สบายใจคงลืมที่จะนึกถึงไปเลยว่าที่ได้ปล่อยให้น้องสาวนอนอยู่กับผม แกคงคิดว่าพี่น้องกันไม่เป็นไรหลอก หรืออาจจะรู้อยู่แก่ใจว่าผมก็คงคิดไม่ดีไม่งามกับน้องสาวอยู่ แต่ก็คงไม่ถือเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว

ตอนนี้ถึงแม้จะอยู่ในช่วงของความโศกเศร้าแต่อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่า"ความเศร้ากับความเงี่ยนนั้นมันคนละเรื่องกันนี่ครับ" น้องสาวของผมหลังจากเข้านอนแล้วก็หลับเป็นตายเลย คงจะเหน็ดเหนื่อยจากการช่วยงานในตอนกลางวัน แต่ผมพลังเหลือครับแม้ตอนกลางวันผมจะง่วนอยู่กับการช่วยงาน เพราะผมชินกับการทำงานหนักซะแล้วครับ ปกติตอนที่อยู่กับป้า เรื่องใต้สะดือนี่ผมไม่เคยได้ว่างเว้นเลยครับจนไม่รู้ว่าลูกกระโปกของผมมันผลิตน้ำเชื้อทันได้ยังไง เรียกว่าวันไหนถ้าไม่ได้เย็ดก็พาลนอนไม่หลับเอาเลย 
คืนนี้ก็เหมือนกันมันเหมือนกับขาดอะไรไปซักอย่าง เสียงขี้เมาและเสียงจากวงไพ่วงไฮโลดังเฮฮามาเป็นระยะๆ มันทำให้ผมกระสับกระส่ายนอนไม่หลับเข้าไปใหญ่ ถึงไฟในห้องของผมกับน้องปิดแล้วแต่แสงสว่างจากนอกห้องก็สาดสองเข้ามาให้พอเห็นเป็นเงาสลัวๆของสิ่งที่อยู่ภายในห้อง

น้องสาวผมนุ่งผ้าถุงนอนครับ เด็กสาวแถวต่างจังหวัดไม่มีชุดนอนใส่กันหลอกครับส่วนมากก็จะนุ่งผ้าถุงตามแบบอย่างของผู้เป็นแม่ น้องนอนตะแคงหันหลังให้ผม ถึงแม้แกจะเป็นแค่เด็กสาววัย13ปีแต่ถ้ามองจากด้านหลังแล้วก็จะเห็นส่วนเว้าส่วนโค้ง ของสะโพกและก้นอันกลมกลึงสวยได้รูป น้องผมนี่ช่างได้รับเชื้อความใหญ่จากสายพันธุ์ของแม่ผมมาแยะจริงๆ ผมเห็นแล้วก็อดที่จะใช้มือลูบไล้ไม่ได้ ระหว่างที่ผมค่อยๆใช้มือลูบไล้สำรวจสัดส่วนของน้องสาวอย่างกับช่างปั้นหม้ออยู่นั้น ก็ไม่มีวี่แววว่าน้องสาวผมจะตื่นขึ้นมาโวยวายแต่อย่างใด มันทำให้ผมได้ใจเข้าไปใหญ่ผมยิ่งคลึงหนักเข้าไปอีก และแล้วผมก็ได้รับรู้ถึงความรู้สึกอะไรบางอย่างภายใต้ผ้าถุงนั้น

"ให้ตายสิ น้องนิดนอนไม่ได้นุงกางเกงในรึนี่" ผมนอนลูบไล้ไปสมองก็คิดจินตนาการไปถึงสิ่งที่อยู่ภายใต้ผ้าถุงนั้นจะงดงามเพียงใด แล้วก็รวบรวมความกล้า ผมตัดสินใจเอามือค่อยถลกผ้าถุงขึ้นไปไว้ที่เอวของน้อง เผยให้เห็นความขาวเนียนอล่างฉ่างของผิวพรรณภายใต้ร่มผ้า เพียงเห็นเท่านั้นควยผมก็ลุกผงาดขึ้นทันที น้ำหล่อลื่นเริมไหลซึมเปียกเยิ้มปลายดอกเห็ดที่กำลังผงกหังหงึก ตอนนี้ผมอยากจะเอาลิ้นเข้าไปแซะพูหีที่อวบอิ่มนูนจนมองเห็นได้จากด้านหลัง แต่ก็ต้องอดใจไว้ก่อน เพราะตอนนี้ข้างนอกผู้คนเต็มบ้านไปหมด 
ถ้าน้องเกิดโวยวายขึ้นมาผมมีหวังได้ดังทั้งอำเภอแน่ๆ ตอนนี้ที่ทำได้คงได้แค่เนียนๆให้ดูเหมือนเป็นการละเมอจะดีกว่า คิดได้อย่างนั้นผมก็เลยไปนอนเบียดทางด้านหลังของน้อง แล้วเอามือโอบกอดน้องสาวเข้าหาตัว แล้วค่อยๆเอาหน้าขาของผมแนบกับสะโพกและร่องก้นของน้อง ซึ่งตอนที่ผมอยู่ที่นี่ก็นอนกอดน้องลักษณะเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นกอดแบบพี่ๆน้องๆไม่ได้คิดอะไรเลยเถิดแบบนี้ ทันที่ควยผมแนบกับร่องก้นน้องสาว ผมก็ค่อยๆออกแรงดันให้หัวควยบดอัดกับพูหีอันอวบอิ่มที่ตอนนี้เริ่มแฉะเยิ้มแล้ว ผมรู้สึกได้ถึงความลื่นและเปียกแฉะ นี่น้องสาวผมมันนอนฉี่รดหรือมันมีอารมณ์ร่วมกันแน่ผมเริ่มลังเลที่จะทำต่อ แต่ก็ยังบดคลึงหัวควยกับพูหีอยู่อย่างนั้น แต่น้องสาวผมก็ยังนอนนิ่งไม่มีท่าทีว่าจะตื่นแต่ก็มีขยับบ้างเล็กน้อย 
ตอนนี้หน้าของผมอยู่ตรงซอกคอของน้องสาว กลิ่นแป้งและกลิ่นของสาวแรกรุ่นมันช่างรันจวนใจเสียจริง ผมเริ่มกระเด้าเนิบๆแต่เน้นออกแรงกดควยให้หนักขึ้น ความเปียกแฉะของพูหีเริ่มฉ่ำเยิ้มมากขึ้น ตอนนี้หัวควยของของผมแทรกเข้าไปได้มิดหัวหยักแล้ว ความลื่นแฉะทำให้ผมเสียวหัวอย่างมาก ผมได้สังเกตุว่าสาวผมเริ่มหายใจขัดๆและแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผมกดหัวควยเข้าไปบี้อัดกับติ่งเสียวของเธอ ถึงน้องผมไม่มีท่าทีว่าจะตื่น แต่ผมก็คงไม่กล้าที่จะทำไปมากว่านี้ ถึงในใจผมนั้นต้องการทำให้มากว่านี้ แต่ผมก็ไม่กล้าพอที่จะออกแรงกดให้ควยเข้ามิดจมหายไปในพูหีของน้องสาวให้รู้แล้วรู้รอดอย่างที่ใจ

อย่างที่ใจคิด ผมกระเด้าเนิบๆอยู่ในท่านั้นนานพอสมควร คอยระวังไม่ให้หัวควยที่ไถไปบนร่องเสียวของน้องเข้าไปลึกมากกว่านั้น เพราะมันอาจจะทำให้แกเจ็บและตื่นขึ้นมาร้องโวยวายเอาได้ แต่แค่นั้นมันก็ทำให้ผมเสียวหัวควยใจจะขาดอยู่แล้วครับ แล้วผมก็ได้รู้สึกว่าตัวน้องสาวผมนั้นเริ่มเกร็งและกระตุกยึกๆ และในพูหีของน้องก็ขมิบหัวควยของหนึบๆหลายครั้ง นี่น้องผมเสร็จด้วยควยของผมไปแล้วเหรอเนี่ย เธอนอนละเมอกระตุกหรือเธอรู้ตัวตลอดเวลาที่ผมทำอะไรกับตัวเธออยู่ ผมเริ่มสับสนและตั้งคำถามกับตัวเอง แต่ในที่สุดผมก็ทนกับการขมิบของพูหีของน้องนิดไม่ไหว ผมกอดน้องสาวเข้าหาตัวแน่นขึ้น แล้วบี้อัดปลายควยกับร่องเสียวของน้องอย่างแนบแน่น ผมทนต่อไปไม่ไหวแล้ว 

อึ๊บ! อ้าาส์! ผมฉีดน้ำเชื้อขาวๆข้นๆของผมเต็มร่องเสียวของน้องอย่างเจิ่งนอง พอเสร็จแล้วก็รีบเอาควยออก และปิดผ้าถุงของน้องสาวไว้อย่างเดิม เสร็จแล้วก็นอนกอดน้องสาวในท่านั้นตลอดคืน"ผมรักน้องสาวของผมจริงๆเลยครับ" รุ่งเช้าน้องสาวผมตื่นก่อนผมออกไปช่วยป้ากับแม่เตรียมกับข้าวเพื่อที่จะถวายพระในตอนเช้า ผมก็ตื่นขึ้นมาช่วยทำงานในส่วนที่พอจะช่วยได้ ผมเริ่มสังเกตุถึงความผิดปกติของน้องสาวผม เวลาน้องจะคุยกับผมแกจะยิ้มๆเขินๆอย่างผิดสังเกตุ แถมชอบแอบมองผมเวลาผมหันไปทางอื่น แต่พอผมหันกลับมาแกจะรีบหลบตาผมแล้วก็แสร้งหันไปทางอื่น และทั้งวันแกจะมาเอาใจผมเป็นพิเศษเรียกใช้อะไรก็รีบทำให้ทันที แม่ตกลงกับญาติๆว่าจะตั้งศพพ่อไว้สวดสามคืน 

และทุกคืนพอได้เวลานอนน้องผมก็จะนอนในท่าเดิมและก็ไม่ใส่กางเกงในนอนทุกคืน ซึ่งผมก็ต้องพ่นน้ำเชื้อใส่ร่องเสียวเธอทุกคืนเหมือนกัน โดยที่ผมกับน้องเวลาตื่นขึ้นมาก็ทำตัวเป็นปกติไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องตอนกลางคืนกันเลย หลังจากเผาศพพ่อผมเสร็จป้าใหญ่ก็ออกปากชวนแม่กับน้องสาวผมให้ไปอยู่ด้วยกันที่บ้านป้า เพราะแม่กับน้องเป็นผู้หญิงสองคนอยู่กันตามลำพังก็น่าเป็นห่วงมาก เพราะบ้านญาติๆก็อยู่ห่างกันเป็นร้อยเมตร ผมได้ยินอย่างนั้นก็ดีใจอย่างสุดขีดอยากจะออกอาการลิงโลดก็กลัวคนอื่นสงสัย เลยต้องเก็บอาการเอาไว้ แต่แม่ก็อิดออดบอกว่าเกรงใจป้าเพราะผมอยู่แค่คนเดียวแม่ก็เกรงใจป้าจะแย่อยู่แล้ว และเป็นห่วงบ้านและที่นาด้วย 

ผมสังเกตุอาการอึกอักของป้าก็พอจะนึกออกว่าป้าคงอยากจะบอกอะไรกับแม่ ป้าคงอยากจะตะโกนบอกว่า "ตอนนี้ฉันก็มีสถานะเป็นเหมือนลูกสะใภ้ของแกแล้ว แกยังจะมาเกรงใจอะไรกับฉันอีกเนี่ย"แต่ป้าก็คงไม่กล้าพูดออกมาเดี๋ยววงแตก เพราะตอนนั้นก็มีญาติๆยังอยู่ที่บ้านหลายคน ป้าก็เลยพูดเลี่ยงไปว่า
"ที่นากับบ้านแกก็ให้พวกญาติเราเช่าทำกินไปก็ได้"
 "แกไปอยู่กับพี่แกก็ช่วยพี่ทำงานได้นี่ ยิ่งตอนนี้ร้านของพี่ขายของดีมาก พี่กับเจ้าเล็กสองคนก็ทำกันจนเหนื่อยเหมือนกัน" 
"นี่ถ้ามีแกไปช่วยอีกพี่ก็เบาแรงไปไดอีกแยะ และอีกอย่างยัยนิดมันก็จะได้ไปเรียนโรงเรียนดีๆด้วย"
ป้าพูดออกมาอย่างมีเหตุมีผล ญาติพี่น้องที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็เห็นดีเห็นงามกับป้าด้วย แม่จึงตัดสินใจให้ญาติซึงเป็นลูกพี่ลูกน้องของแม่มาเช่าที่นาและจะได้ดูแลบ้านให้ด้วย ถึงแม้บ้านผมจะยากจน แต่ก็ได้รับมรดกเป็นที่ดินหลายสิบไร่จากตาของผม และแม่ก็ช่วยกันสร้างบ้านหลังนี้มากับพ่อของผม ด้วยความผูกพันธ์ขนาดนี้แม่จึงไม่อยากขาย 
เพราะต้องการจะมอบให้เป็นสมบัติของผมกับน้องสาวต่อไป พอจัดการทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จแล้วแม่ก็ไปทำเรื่องย้ายโรงเรียนให้น้องสาวผมซึ่งโรงเรียนก็อยู่ใกล้ๆบ้านนั่นเอง หลังจากนั้นแม่กับน้องผมก็เก็บข้าวของที่จำเป็นแล้วออกเดินทางเพื่อที่จะมาอยู่กับผมและป้าที่มหาชัย 
ผมนำเถ้ากระดูกของพ่อกลับมาด้วยเราตั้งใจกันไว้ว่า ถ้าเสร็จจากการทำบุญ100วันให้พ่อเราจะนำเถ้ากระดูกของพ่อ ลงเรือไปลอยกลางทะเลเพื่อให้พ่อได้ไปสู่ภพภูมิที่สบายต่อไป ไม่ต้องมามีกังวลเป็นห่วง
แม่กับผมและน้อง บ้านของป้านั้นหลังใหญ่และมีหลายห้อง พอที่จะให้แม่กับน้องอยู่กันได้เป็นสัดส่วนอย่างสบายๆไม่อึดอัด พอเดินทางกลับมาถึงทุกคนก็ช่วยกันขนของลงจากรถ พอแม่กับป้าเดินขึ้นไปชั้นบนแต่ผมยังอยู่กับน้องสาวที่ชั้นล่าง ทันทีที่ปลอดคนน้องสาวก็รีบถามผมทันทีว่า

พี่เล็กนอนห้องไหนล่ะให้นิดนอนกับพี่เล็กด้วยนะ" ซึ่งก็เล่นเอาผมอ้ำอึ้งไปเลย พอนึกขึ้นได้ว่าถ้าน้องผมมาเห็น พี่ชายตัวเองเล่นเซ็กหมู่กับป้าและแม่ตัวเอง เด็กวัย13ปีอย่างแกจะคิดยังไงเนี่ย ผมก็เลยตอบน้องแบบเลี่ยงไปว่า
"พอดีป้าใหญ่แกบอกกับพี่ให้เตรียมห้องให้นิดแล้วแหละ นิดเป็นเด็กผู้หญิงคงอยากมีห้องส่วนตัวซินะ" น้องนิดเริ่มหน้ามุ่ยเข้ามาออดอ้อนผมเป็นการใหญ่ แล้วขอจะนอนห้องเดียวกับผมให้ได้ 

"นิดนอนห้องเดียวกับพี่ไม่ได้หลอกนะ พี่นอนห้องเดียวกับป้าใหญ่มาตั้งแต่พี่มาใหม่ๆแล้วแหละ" "แบบว่าป้าใหญ่แกทำงานหนัก แล้วกลางคืนแกจะเมื่อยมากแกเลยให้พี่นวดให้แกเป็นประจำเลยแหละ"ผมพยายามหาเหตุผลให้น้องเข้าใจ 
"หา!พี่เล็กนอนห้องเดียวกับป้าใหญ่"น้องสาวทำตาโตผมตะโกนเสียงดัง 
นั่นแน่! พี่เล็กนวดให้ป้าใหญ่อย่างเดียวหรือป่าว นอกจากนวดแล้วยังมีอย่างอื่นอีกมั้ย"น้องผมเริ่มกวนประสาทผมซะแล้ว
"จะบ้าเหรอยัยนิดนั่นป้าเป็นญาติเรานะ จะทำอย่างอื่นได้ยังไงเล่า"ผมดุน้องสาวที่ตอนนี้เริ่มสอดรู้สอดเห็นมากไปแล้ว แล้วคำพูดที่น้องสาวย้อนผมกลับมาให้เล่นเอาผมไปไม่เป็น หมดมุกที่จะเถียงกับแกอีกเลย 
"แล้วทีที่พี่เล็กทำกับนิดที่บ้านเรานั่นล่ะ นิดก็เป็นน้องสาวพี่นะพี่ยังทำได้เลยตอนนั้นนิดยังไม่หลับนะจะบอกให้" 
"ทำเป็นนอนกอดเค้า แหม!ทิ้งหลักฐานไว้เต็มจิ๋มเค้าเลยนะยังจะมาทำเป็นไก๋อีก ไม่กลัวน้องสาวตัวเองท้องบ้างหรือไงเนี่ย" ผมก็ทำหน้าเจื่อนๆและบอกกับแกไปว่า
"พี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลยหลักฐานอะไรกันแกนี่มั่วจริงๆเลย พี่คงนอนละเมอละมั้ง" แล้วผมก็รีบวิ่งขึ้นชั้นบนไปเลยเพื่อที่จะขึ้นไปตั้งหลักก่อน ไม่คิดเลยว่าน้องสาวผมนี่อายุแค่13เองจะแก่แดดได้ขนาดนี้ แต่ก็เป็นเพราะผมนั่นแหละมันผิดเองที่ไปทำให้น้องมันอยาก 
แล้วไม่ยอมรับผิดชอบทำให้น้องมันหายอยาก แสดงว่าที่ผมลักหลับน้องนิดทุกคืนที่บ้านนั่น น้องนิดรู้ตัวตลอดเลยหรือนี่ผมเริ่มเกิดอาการวิตกจริตขึ้นมา แล้วนี่ถ้าน้องผมเกิดทนเงี่ยนไม่ไหวขึ้นมา แล้วไปให้พวกวัยรุ่นแถวนี้กระทุ้งหอยแก้เงี่ยนแล้วเกิดติดโรคมาแม่ผมคงเสียใจไม่น้อยเลยนะนี่ 

แล้วเหตุการณ์ก็ดำเนินผ่านไปอย่างปกติเป็นเวลาหลายเดือน ผมก็ทำหน้าที่หลานและผัวที่ดีของป้าเรื่อยมาแต่ก็ระวังให้มิดชิดขึ้น เพราะยัยนิดน้องสาวตัวแสบของผมมักจะชอบสอดรู้สอดเห็น และต้องระวังเป็นพิเศษเรื่องเสียงต่างๆที่จะเกิดขึ้นเมื่อตอนจะใกล้ถึงจุดไคลแมคซ์ ผมซึ่งยังมีพันธสัญญาที่ได้ให้ไว้กับพ่อตอนก่อนที่พ่อจะสิ้นใจว่าผมจะทำหน้าที่ดูแลแม่และน้องแทนพ่ออย่างไม่ขาดตกบกพร่อง บางวันผมจึงต้องรับศึกหนักทำหน้าที่ผัวที่ดีของแม่แทนพ่อ ไอ้เรื่องนี้ก็ไม่รู้ว่าพ่อจะต้องการให้ผมทำหน้าที่นี้หรือป่าวก็ไม่รู้ แต่ห้องเสพสุขของพวกเราจะเป็นห้องป้าเพียงห้องเดียว โดยให้แม่เข้ามานอนห้องเดียวกับผมและป้าเพื่อความรู้สึกตื่นเต้นแบบสองรุมหนึ่ง คิดแล้วก็น่าสงสารน้องนิดอยู่เหมือนกัน แกเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในบ้านที่ยังไม่ได้มีโอกาศลิ้มรสควยผมแบบเข้าเต็มๆมิดด้ามกับเขาสักที 

แต่แล้วก็มีอยู่ช่วงนึงที่ทำให้ผมต้องห่างจากเรื่องหีๆแตดๆเป็นการชั่วคราว เพราะเป็นช่วงที่ผมเรียนจบม.3 และต้องเตรียมตัวสอบเข้าม.4 ถึงผมเลือกที่จะเรียนชั้นม.4ที่โรงเรียนเดิมแต่ก็ต้องสอบเพื่อที่จะคัดเลือกเข้าเรียนห้องที่ดีที่สุดก็คือห้องลำดับต้นๆ เพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าห้อง4/1หรือ4/2นั้นเป็นห้องที่อาจารย์จะให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นศูนย์รวมของเด็กเก่งๆ เป็นที่เชิดหน้าชูตาของโรงเรียนเวลาไปสอบแข่งขันกับโรงเรียนอื่น ทำให้ทุกคนก็อยากที่จะไปนั่งเรียนในห้องเหล่านั้น เนื่องจากผมมักจะเปิดไฟดูหนังสือดึกๆทุกคืน ป้าเลยให้ผมแยกมาอ่านหนังสืออีกห้องหนึ่งเป็นห้องเล็กๆที่ผมมักจะใช้เป็นที่ทำการบ้านเป็นประจำ ในห้องนี้มีที่นอนหมอนมุ้งพร้อมผมจึงมักจะเผลอหลับในห้องนี้เกือบทุกคืนโดยไม่ได้กลับมานอนห้องป้า 

หลังจากที่ปิดเทอมได้ไม่กี่วันก็ถึงกำหนดสอบและประกาศผลในอีก1สัปดาห์ต่อมา ผลการสอบออกมาผมได้ห้อง4/2เป็นห้องรองครับไม่ใช้ห้องTop แต่ก็ยังดีครับเพราะถึงแม้มันจะเป็นตัววัดว่าผมนั้นไม่ได้ฉลาดที่สุด แต่การได้ห้อง2นี่ก็หมายความว่าผมก็ไม่ใช่ขี้ไก่เหมือนกัน หลังจากผ่านเรื่องหนักสมองมาเป็นเดือนและนอนรอลุ้นผมสอบอีกเป็นสัปดาห์ ก็ได้เวลาที่ผมจะต้องเจอเรื่องเสียวๆได้แล้ว ผมตั้งใจเอาน้ำเชื้อที่ผมเก็บไว้เป็นเดือนๆไปฉีดอัดใส่มดลูกของแม่ในคืนนี้ เผื่อว่ามันจะมากพอที่จะทำให้แม่ตั้งท้องได้ ไม่รู้ว่าเป็นไงผมถึงจะรู้อยู่เต็มอกว่าแม่นั้นกินยาคุมแต่ก็ชอบลุ้นให้แม่ตั้งท้อง เพราะลุ้นที่ไรมันก็เสียวจนกลั้นน้ำเงี่ยนไม่อยู่ทุกที แต่ผมก็ต้องผิดหวังเล็กน้อย เพราะผมต้องฉีดน้ำเชื้อที่ผมอุตส่าห์เก็บไว้นานเป็นเดือนใส่มดลูกคนอื่นที่ไม่ใช่มดลูกของแม่ 

ตอนบ่ายๆวันหนึ่งเป็นวันที่พวกเราไม่ได้ขายของเพราะใน1เดือนเราจะหยุดวันนึง แม่กับป้าพากันไปเดินตากแอร์ในห้าง ส่วนผมก็ไม่ได้ไปด้วยเพราะอยากจะนอนพักอยู่บ้านเพราะคร่ำเคร่งมาหลายวันแล้ว ผมก็นอนในห้องเล็กที่ผมใช้ทำการบ้าน แล้วผมก็รู้สึกว่ามีอะไรหนักๆมาทับตัว มีความรู้สึกเหมือนถูกผีอำจึงพยายามจะลืมตาขึ้นดู